สว.วีระพันธ์ เมื่อเวลา 1100 น วันที่ 29 กค 2568

สว.วีระพันธ์

สว.วีระพันธ์

สว.วีระพันธ์ แนะเจรจารอบใหม่ตัวแทนไทยต้องหนักแน่น ลั่นสอบตกการสื่อสารเปิดช่องเฟกนิวส์ปั่นสังคม

“สว.วีระพันธ์” แนะเจรจารอบใหม่ ตัวแทนไทยต้องหนักแน่น แนะตั้งวอร์รูมให้ข่าวข้อเท็จจริงสังคมไทย ลั่นสอบตกการสื่อสารเปิดช่องเฟกนิวส์ปั่นสังคม

 

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 ก.ค. 2568 ที่รัฐสภา นพ.วีระพันธ์ สุวรรณามัย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) แถลงถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยเจรจาหยุดยิงกับนายกฯ กัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซียเมื่อ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา มีข้อสรุปหยุดยิงแบบไร้เงื่อนไขหลังเวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 ก.ค. ว่า เป็นการเจรจาที่ใช้ไม่ได้ ส่วนตัวมองว่าควรทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อไม่ให้ไทยเสียเปรียบ โดยเสนอให้มีการยกเลิกเอ็มโอยูปี 2543, 2544 และจัดทำเอ็มโอยูใหม่ฉบับปี 2568 บนหลักความถูกต้องและหลักมนุษยธรรม ผู้นำที่ไปประชุมควรนึกถึงหน้าของคนที่สูญเสียจากเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งตนมองว่ามีการแสดงออกถึงความสูญเสียน้อยเกินไป เป็นเรื่องน่าเศร้าใจ เพราะไทยเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ แต่ตัวแทนไทยกลับแสดงท่าทีเป็นมิตร ทั้งที่ตนไม่ใช่คนที่อยากให้มีสงคราม แต่ผู้นำที่ไปเจรจาคำนึงถึงหน้าของผู้ที่สูญเสียชีวิต และตนขอใช้เวทีวุฒิสภาที่มีการประชุมลับในเรื่องนี้ แถลงให้ชาวโลกรู้ว่าไทยเป็นฝ่ายถูกกระทำก่อน โดยการพุ่งเป้าที่ รพ. รร. และชุมชนหมู่บ้านที่เป็นพลเรือน เพราะวันที่ 24 ก.ค. ที่กองทัพกัมพูชายิงใส่ไทย รร. ของฝั่งไทยยังเปิดสอนปกติ แต่ รร. ฝั่งกัมพูชาสั่งปิดจำนวนมากแสดงว่าเขาเจตนามาตั้งแต่ต้น รวมถึงเจตนาในการฝังกับระเบิดจำนวนมากในพื้นที่ชายแดนด้วย

หยุดยิง ยังไม่เห็นผล

เมื่อถามว่า มองอย่างไรต่อผลเจรจาที่ล้มเหลวในการหยุดยิง นพ.วีระพันธ์ กล่าวว่า ตนแปลกใจ เพราะทุกการเจรจาควรมีเงื่อนไขที่แน่นอน ส่วนข้อตกลงหยุดยิงก็เห็นแล้วว่าไม่มีจริง เพราะกัมพูชายังยิงเราต่อเนื่องจนถึงรุ่งเช้า จึงไม่เป็นผล ทั้งนี้ตนมองว่าการเจรจาที่ไม่มีเงื่อนไขควรมาจากคนที่แพ้หรือสู้ไม่ได้ แต่เราเป็นสุภาพบุรุษและใจดีไป จึงตกลงแบบนั้น ไทยควรยึดหลักให้มั่นคง ให้เขาร้องขอให้มากกว่านี้ ไม่ใช่เจรจาเพียง 2 ชั่วโมงแล้วจบ จึงถือว่าการเจรจาล้มเหลวชัดเจน เมื่อถามย้ำว่า นายภูมิธรรมควรแสดงความรับผิดชอบอย่างไรหรือไม่ นพ.วีระพันธ์ กล่าวว่า ไทยมีกำลังรบที่มากกว่ากัมพูชามาก หากทำมากไปรังแก หากทำน้อยจะเป็นแบบนี้ รัฐบาลควรเปลี่ยนท่าทีเจรจาใหม่ แต่ไม่ใช่ต้องก่อสงครามหรือสู้รบ แต่ท่าทีของไทยควรแข็งกร้าวมากกว่านี้

ควรตั้งวอร์รูมสื่อสารประชาชน

เมื่อถามว่า มองว่ารัฐบาลควรถอยและให้ทหารเป็นผู้นำคุมเกมเจรจาหรือไม่ นพ.วีระพันธ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นประเด็นที่คนไทยคิดแบบนั้นจำนวนมาก แต่อำนาจการปกครองเป็นของรัฐบาล ดังนั้นคิดว่าต้องคุยกันทั้งทหารและรัฐบาลให้ชัดเจนว่าจะมอบอำนาจให้ใคร ที่น่าสังเกตคือไม่มีข่าวสารทางการจากรัฐบาลที่มาชี้แจงให้ประชาชนไทยรับทราบเลย ดังนั้นควรตั้งวอร์รูมสื่อสารชี้แจงข่าวสารต่อประชาชนได้แล้ว ซึ่งข้อมูลที่เป็นจริงมากกว่านี้ เพราะหากไม่สื่อสาร ข่าวปลอม เฟกนิวส์จะเกิดมากยิ่งขึ้น ส่วนความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ตนเชื่อว่าความขัดแย้งแก้ไขได้ด้วยการเจรจา แต่ท่าทีการเจรจาของเราต้องหนักแน่นกว่านี้ เชื่อว่าต้องจบ แต่ไม่อยากให้จบแบบมีการสูญเสีย shoujospain