เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับรุ่นใหม่ ฮาร์บิน, 2 พ.ย. (ซินหัว)

เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับรุ่นใหม่

เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับรุ่นใหม่

เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับรุ่นใหม่”ที1400″ ทดสอบการบินรอบปฐมฤกษ์สำเร็จในเฮยหลงเจียง

ฮาร์บิน, 2 พ.ย. (ซินหัว) — เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับรุ่นใหม่ “ที1400” (T1400) ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทฮาร์บิน ยูไนเต็ด แอร์คราฟต์ เทคโนโลยี จำกัด ในเครือยูไนเต็ด แอร์คราฟต์ กรุ๊ป ได้ทดสอบการบินรอบปฐมฤกษ์สำเร็จ และทำปฏิบัติภารกิจการบินหลายรูปแบบ รวมถึงการลอยตัว การบินตามเส้นทาง และการลงจอดแบบแม่นยำที่เมืองฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียงทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ถือเป็นก้าวสำคัญสู่ยุค “ความหนักระดับตัน” ของอุปกรณ์การบินระดับต่ำในอุตสาหกรรมการบินของจีน

เถียนกังอิ้น ประธานบริษัทยูไนเต็ด แอร์คราฟต์ กรุ๊ป กล่าวว่าเฮลิคอปเตอร์รุ่นที1400 ซึ่งมีน้ำหนักบินขึ้นสูงสุด 1,400 กิโลกรัม ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญทั้งในด้านน้ำหนักบรรทุกและระยะเวลาการบิน ซึ่งช่วยแก้ไขข้อจำกัดที่มีมาอย่างยาวนานของโดรนเชิงอุตสาหกรรม

เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับรุ่นที1400 สามารถบรรทุกน้ำหนักได้สูงสุด 650 กิโลกรัม ซึ่งเทียบเท่ากับน้ำหนักของผู้ใหญ่กว่า 10 คน และสามารถบินอยู่ในอากาศได้นานกว่า 8 ชั่วโมง ออกแบบมาให้ใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมสุดขั้ว โดยสามารถปฏิบัติการได้ในอุณหภูมิตั้งแต่ -40 องศาเซลเซียส ถึง 55 องศาเซลเซียส บินได้ระดับความสูงสุดถึง 6,500 เมตร และทนต่อกระแสลมแรงได้

เถียนกล่าวว่าเฮลิคอปเตอร์รุ่นที1400 ซึ่งพัฒนาและผลิตในฮาร์บิน มีจุดประสงค์หลักเพื่อให้บริการงานด้านเกษตรกรรม ป่าไม้ ทะเลสาบ และแม่น้ำอันกว้างใหญ่ของมณฑลเฮยหลงเจียง โดยมีศักยภาพในการประยุกต์ใช้งานในด้านการเกษตร โลจิสติกส์ และการกู้ภัยฉุกเฉิน นอกจากนั้น อากาศยานลำนี้จะถูกนำไปใช้งานทั่วประเทศในอนาคต

ในฐานะภูมิภาคผู้ผลิตธัญพืชและฐานป่าไม้ที่สำคัญของจีน เฮยหลงเจียงได้กลายเป็นตลาดสำคัญสำหรับเศรษฐกิจการบินระดับต่ำ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เฮยหลงเจียงได้ออกมาตรการหลายประการเพื่อเร่งพัฒนาภาคส่วนนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างความก้าวหน้าในการปฏิรูปน่านฟ้า และการประยุกต์ใช้ในระดับภูมิภาคอย่างโดดเด่นภายในปี 2027

เศรษฐกิจการบินระดับต่ำของจีนได้รับแรงขับเคลื่อนอย่างมากนับตั้งแต่ถูกบรรจุไว้ในรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลประจำปี 2024 ซึ่งระบุให้เป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ ด้านสำนักบริหารการบินพลเรือนแห่งประเทศจีนคาดว่าขนาดตลาดของภาคส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 ล้านล้านหยวน (ราว 6.8 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2025 และจะขยายตัวต่อเนื่องถึง 3.5 ล้านล้านหยวน (ราว 15.8 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2035 shoujospain