อิทธิพร แก้วทิพย์ อัยการสูงสุด คนที่ 20 วาง 4 นโยบายหลัก ยุติธรรมโปร่งใส ใส่ใจประชาชน
นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อัยการสูงสุด คนที่ 20 แถลงนโยบายการบริหารงานภายใต้แนวคิด ยุติธรรมโปร่งใส ใส่ใจประชาชน ยันพร้อมมุ่งมั่นบริหารงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ตุลาคม 2568 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถนนแจ้งวัฒนะ แถลงนโยบายบริหารงานภายหลังจากได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยมีรองอัยการสูงสุด ผู้ตรวจการอัยการ อธิบดีอัยการที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการส่วนกลาง อธิบดีอัยการภาค 1-9 และผู้บริหารเข้าร่วมรับฟัง
นาย แม้จะมีระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งเพียง 1 ปี แต่ก็มุ่งมั่นที่จะบริหารงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนภายใต้แนวคิด “ยุติธรรมโปร่งใส ใส่ใจประชาชนเพิ่มประสิทธิผลของงาน บริหารจัดการอย่างยั่งยืน” หรือ “Justice for People” โดยมีนโยบายที่สำคัญต่าง ๆ ดังนี้ นโยบายที่ 1 ยุติธรรมโปร่งใส จะมุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินคดีให้โปร่งใส รวดเร็วและเป็นธรรม ลดปริมาณสำนวนค้าง ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของพนักงานอัยการ พัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหารคดี ส่งเสริมความร่วมมือเชิงรุกระหว่างสำนักงานอัยการสูงสุดกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ สนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจังเป็นรูปธรรมต่อเนื่อง
อัยการสูงสุด คนใหม่กล่าวว่า นอกจากการลงไปช่วยทำงานแต่ละสำนักงานจะเลือกสำนักงานในแต่ละจังหวัดทำโครงการนำร่องวางรูปแบบแนวคิดการทำงานใหม่ ว่าจะทำงานเช่นไรเพื่อแก้ปัญหาสำนวนค้างให้ยั่งยืน และควรเป็นรูปแบบที่พนักงานอัยการทั่วประเทศปฏิบัติ สำหรับการดำเนินคดีของพนักงานอัยการปัจจุบันก็มีเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยเหลือได้ การนำเอาเทคโนโลยีดังกล่าวใช้เพื่อช่วยค้นข้อมูลส่วนที่เหลือก็เป็นดุลพินิจของพนักงานอัยการ และต้องมีการเร่งรัดให้กระบวนการเข้าสู่ศาลได้อย่างรวดเร็ว
นาย กล่าวว่า ส่วนนโยบายที่ 2 ในแง่ใส่ใจประชาชน พัฒนางานคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนให้ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน เสริมสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นของประชาชน ต่อองค์กรอัยการผ่านการสื่อสารและการมีส่วนร่วม ปรับปรุงกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้ประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมได้ง่ายขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการติดตามและบังคับคดีเพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดของรัฐ รวมทั้งสนับสนุนการคุ้มครองเด็ก สตรี ผู้เสียหาย และผู้ต้องหาในกระบวนการยุติธรรม
อัยการสูงสุดกล่าวว่า สำหรับนโยบายที่ 3 เพิ่มประสิทธิผลของงาน ตนได้เลียนแบบนโยบายของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่บอกว่าสั่งวันนี้เสร็จเมื่อวาน คือการทำงานล่วงหน้าโดยไม่ต้องสั่ง ถ้าสั่งงานวันนี้ต้องเสร็จให้ทัน พัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มศักยภาพบุคลากร ทุกระดับ (Upskill Reskill) มีความคิดจะเรียกพนักงานอัยการมาทดสอบความรู้ทุกๆระยะเวลาตามความเหมาะสม, พัฒนาและปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการทำงานที่รวดเร็วโปร่งใส และตรวจสอบได้ ลดขั้นตอนการทำงาน เสริมสร้างแนวคิดและทัศนคติของบุคลากรให้มุ่งเน้นความรับผิดชอบและประสิทธิภาพการทำงานเพื่อสนองตอบต่อประชาชน สร้างมาตรฐานจริยธรรมและธรรมาภิบาลของบุคลากรอย่างเคร่งครัด shoujospain