หากเลือกปฏิบัติ พรรคประชาชนลั่นพร้อมคว่ำร่างนิรโทษกรรม
“ณัฐพงษ์” ยันพรรคประชาชนใช้กลไก กมธ. ผลักดันนิรโทษกรรมให้กว้างที่สุด ลั่นพร้อมโหวตคว่ำหากร่างสุดท้ายเลือกปฏิบัติ
วันที่ 16 กรกฎาคม 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน แถลงข่าวภายหลังสภาผู้แทนราษฎรลงมติรับหลักการร่างกฎหมายนิรโทษกรรม 3 ฉบับ และปัดตกร่างของอดีตพรรคก้าวไกลและร่างของภาคประชาชนว่า ผลการลงมติดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนผิดหวัง และมองว่าเป็นการนิรโทษกรรมแบบเลือกปฏิบัติ แต่พรรคประชาชนยังคงเชื่อมั่นในกระบวนการรัฐสภา และจะใช้กลไกในชั้นกรรมาธิการอย่างเต็มที่เพื่อผลักดันการนิรโทษกรรมให้เปิดกว้างและครอบคลุมทุกฝ่ายมากที่สุด
หัวหน้าพรรคประชาชนระบุว่า ถึงแม้ร่างที่พรรคและภาคประชาชนเสนอจะถูกปัดตก แต่หลักการของร่างที่ผ่านยังมีช่องทางให้สามารถแก้ไขได้ โดยพรรคประชาชนจะทำหน้าที่อย่างมีวุฒิภาวะเพื่อไม่ละทิ้งความหวังนี้
### พรรคประชาชนกร้าว! พร้อมคว่ำร่างนิรโทษกรรม หากพบ “เลือกปฏิบัติ” หลังสภาฯ ปัดตกฉบับประชาชน
**กรุงเทพมหานคร – 16 กรกฎาคม 2568** – พรรคประชาชน นำโดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ประกาศจุดยืนชัดเจน พร้อมลงมติคว่ำร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมในวาระสุดท้าย หากพบว่าเนื้อหามีลักษณะ “เลือกปฏิบัติ” ไม่ครอบคลุมผู้เห็นต่างทางการเมืองอย่างแท้จริง ท่าทีแข็งกร้าวนี้มีขึ้นภายหลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติปัดตกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับที่เสนอโดยพรรคประชาชน (อดีตพรรคก้าวไกล) และฉบับของภาคประชาชนในวาระแรกวันนี้
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทั้งสิ้น 5 ฉบับ ผลปรากฏว่าที่ประชุมมีมติรับหลักการในวาระที่ 1 เพียง 3 ฉบับ ได้แก่ ร่างที่เสนอโดยพรรครวมไทยสร้างชาติ, พรรคกล้าธรรม และพรรคภูมิใจไทย ขณะที่ร่างของพรรคประชาชนและร่างฉบับประชาชน ซึ่งมีเนื้อหาครอบคลุมถึงการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ถูกตีตกไป หากเลือกปฏิบัติ
ภายหลังการลงมติ นายณัฐพงษ์ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน แสดงความผิดหวังต่อผลการลงมติ โดยชี้ว่าการกระทำดังกล่าวอาจนำไปสู่ “การนิรโทษกรรมแบบเลือกปฏิบัติ” ซึ่งไม่ช่วยสร้างความสมานฉันท์หรือแก้ไขปัญหารอยร้าวของความขัดแย้งทางการเมืองได้อย่างแท้จริง
“ผลการลงมติในวันนี้อาจทำให้พี่น้องประชาชนผิดหวัง และมองว่านี่คือการนิรโทษกรรมแบบเลือกปฏิบัติ แต่พรรคประชาชนยังคงเชื่อมั่นในกระบวนการรัฐสภา” นายณัฐพงษ์กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาชนย้ำว่า แม้ร่างกฎหมายที่พรรคและภาคประชาชนเสนอจะถูกปัดตกไปในวาระแรก แต่พรรคจะยังไม่ละทิ้งความหวัง และจะต่อสู้ในชั้นกรรมาธิการวิสามัญที่ตั้งขึ้นเพื่อพิจารณาร่างทั้ง 3 ฉบับที่ผ่านวาระแรก โดยจะพยายามผลักดันให้มีการแก้ไขเนื้อหาให้ครอบคลุมและเป็นธรรมที่สุด
“พรรคประชาชนจะทำหน้าที่ในชั้นกรรมาธิการอย่างมีวุฒิภาวะ เพื่อผลักดันให้หลักการของการนิรโทษกรรมที่ครอบคลุมทุกฝ่ายได้รับการพิจารณา แต่หากในท้ายที่สุด ร่างกฎหมายที่ออกมายังคงมีลักษณะของการเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน เราก็พร้อมที่จะลงมติไม่เห็นด้วยในวาระที่สาม”
การปัดตกร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับของพรรคประชาชนและภาคประชาชน ได้สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและภาคประชาสังคม ซึ่งมองว่าเป็นการกีดกันผู้ต้องหาในคดีมาตรา 112 ออกจากกระบวนการสร้างความปรองดอง และอาจเป็นชนวนเหตุของความขัดแย้งระลอกใหม่ในอนาคต
ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรได้มีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 32 คน ขึ้นมาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ผ่านความเห็นชอบทั้ง 3 ฉบับ โดยใช้ร่างของพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นร่างหลักในการพิจารณา ซึ่งต้องจับตาดูต่อไปว่าการทำงานในชั้นกรรมาธิการจะสามารถหาจุดร่วมที่ทุกฝ่ายยอมรับได้หรือไม่ ก่อนที่ร่างกฎหมายจะถูกส่งกลับเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ในวาระที่สองและสามต่อไป หากเลือกปฏิบัติ
นายณัฐพงษ์ย้ำจุดยืนของพรรคว่า หากกฎหมายนี้เข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 3 และออกมาเป็นร่างที่เลือกปฏิบัติ ไม่ครอบคลุมทุกฝ่ายจริง พรรคประชาชนไม่สามารถจะเห็นชอบให้กฎหมายดังกล่าวผ่านสภาได้ แต่ในขณะที่กระบวนการยังไม่สิ้นสุด พรรคจะทำหน้าที่ในชั้นกรรมาธิการอย่างเต็มที่เพื่อเปิดประตูการนิรโทษกรรมให้กว้างที่สุด. shoujospain