ประวัติ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ คนที่ 27

ประวัติ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ประวัติ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ประวัติ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลูกพระแม่ธรณี นั่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อีกสมัย

เปิดประวัติ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตนายกฯ คนที่ 27 คัมแบ็กนั่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชูธงอาสามารับใช้ประชาชนในฐานะลูกพระแม่ธรณีอีกครั้ง

 

ผลการโหวตเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้กลับมานั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคอีกครั้ง ท่ามกลางการผลักดันจากกลุ่มการเมืองเก่าภายในพรรค ที่อยากให้มาฟื้นฟูพรรค หลังแพ้เลือกตั้งหลายสมัย และไม่ได้เป็นพรรคแกนนำสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

 

ประวัติ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

สำหรับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีชื่อเล่น มาร์ค เกิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2507 ในเมืองนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษ ปัจจุบัน อายุ 61 ปี เป็นบุตรของศาสตราจารย์นายแพทย์อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กับศาสตราจารย์แพทย์หญิงสดใส เวชชาชีวะ มีพี่สาว คือ ศาสตราจารย์แพทย์หญิงอลิสา วัชรสินธุ หัวหน้าหน่วยจิตเวชเด็ก ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มารดาของนายพริษฐ์ วัชรสินธุ (ไอติม) สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และงามพรรณ เวชชาชีวะ นักเขียนและนักแปล มีชีวิตสมรสกับ ศาสตราจารย์พิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ (สกุลเดิม ศกุนตาภัย) อดีตทันตแพทย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีบุตรธิดาด้วยกัน 2 คนคือ ปราง เวชชาชีวะ และ ปัณณสิทธิ์ เวชชาชีวะ

 

ส่วนการศึกษาของนายอภิสิทธิ์ เรียนอนุบาลที่โรงเรียนอนุบาลยุคลธร ระดับประถมที่โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อจบชั้นป.6 ได้ย้ายกลับประเทศอังกฤษเพื่อเข้าเรียนที่โรงเรียนสเกทคลิฟ และเรียนต่อที่โรงเรียนมัธยมอีตัน ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำเอกชน ระดับเตรียมอุดมศึกษาที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของลอนดอน

จบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด สาขาวิชาปรัชญา การเมือง และ เศรษฐศาสตร์ (philosophy, politics and economics, PPE) เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และจบปริญญาโททางด้านเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ถูกยกย่องว่าทำปริญญานิพนธ์ จนได้รับการยอมรับในระดับดีมาก นอกจากนี้ยังศึกษาเพิ่มเติม ด้วยการเรียนปริญญาตรีอีก 1 ใบ ในคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

 

เส้นทางการทำงาน เคยเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จังหวัดนครนายก หลังจบปริญญาโท ได้เป็นอาจารย์ประจำ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร จากพรรคประชาธิปัตย์ ใน พ.ศ. 2535 ขณะอายุได้ 27 ปี และเป็น สส.เพียงคนเดียวของพรรคที่ชนะการเลือกตั้งในเขต กทม. ในขณะนั้น ได้รับแต่งตั้งเป็นโฆษกรัฐบาล ในยุครัฐบาลนายชวน หลีกภัย 1 และได้นั่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในยุครัฐบาลนายชวน หลีกภัย 2

 

ในปี 2548 ได้รับการไว้วางใจจากพรรค ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับการลงมติจากสภา ให้นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในปี 2551 ในวัยเพียง 44 ปี จากการสนับสนุนของกลุ่มเพื่อนเนวิน (เนวิน ชิดชอบ) หลังพรรคพลังประชาชนถูกยุบ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่ากองทัพมีส่วนในการผลักดันนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี

ขณะที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ ต้องเผชิญกับการประท้วงใหญ่ ในเดือนเมษายน 2552 ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าปิดล้อมรถยนต์ของนายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ขณะเคลื่อนขบวนผ่านถนนภายในเมืองพัทยา ขณะเดินทางกลับจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร เมื่อวันที่ 7 เม.ย.2552 โดยนำรถมอเตอร์ไซค์จอดขวาง แล้วเข้าไปตะโกนด่าทอ พร้อมทั้งขว้างหมวกกันน็อก ใส่กระจกด้านหลังรถจนแตกเสียหาย และใช้ท่อนไม้ทุบกระจกหน้ารถ ต่อมาตำรวจตั้งข้อหาแก่ผู้ก่อเหตุว่า พยายามฆ่าบุคคลทั้งสอง

และอีกเหตุการณ์สำคัญคือ มีกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงล้อมรถประจำตำแหน่ง ขณะที่นายอภิสิทธิ์จะเดินทางกลับจากกระทรวงมหาดไทย ในวันที่ 12 เมษายน 2552 โดยนายอภิสิทธิ์ได้เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นในรายการไทยรัฐ ทอล์กว่า

“วันนั้นไปแถลงข่าวที่กระทรวงมหาดไทยเพื่อประกาศภาวะ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตอนที่กำลังจะกลับก็ถูกผู้ชุมนุมล้อมรถ โดนประณามว่าทางรัฐบาลใช้ความรุนแรง คนก็กรูเข้ามา ผมถูกล้อมอยู่ประมาณ 20 นาที ตอนหลังคนขับรถสามารถถอยรถชนประตูออกมาได้ ประวัติ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

วันนั้นผมยืนยันว่าอยู่ในรถครับ คิดว่า จะหลุดจากตรงนั้นได้อย่างไร แม้รถคันที่นั่งเป็นรถกันกระสุน แต่พอจบจากเหตุการณ์นั้นตัวถังก็ใช้การไม่ได้แล้ว”

นายอภิสิทธิ์ ยังได้ดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถือเป็นยุคที่มีความโดดเด่นในการตรวจสอบรัฐบาล กระทั่งการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2562 พรรคประชาธิปัตย์ ได้คะแนนเสียงไม่เป็นไปตามเป้า คว้ามาได้เพียง 53 ที่นั่ง ขณะที่ในช่วงหาเสียงมีการประกาศจุดยืนไม่ร่วมรัฐบาลกับคณะรัฐประหาร แต่เมื่อไม่สามารถเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลได้ สมาชิกในพรรคส่วนใหญ่โหวตให้ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีโดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เข้ามาทาบทามถึงพรรค ทำให้นายอภิสิทธิ์ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค และ ลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อ ในวันโหวตนายกรัฐมนตรีที่อาคารรัฐสภา ต่อมาในปี 2566 ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ภายหลังนายชวน หลีกภัย ผู้อาวุโสของพรรคได้เสนอชื่อให้ชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค กับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน

กระทั่งในปี 2568 นายเฉลิมชัย ได้ประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรค ทำให้ สส.ในพรรคบางส่วน เข้าไปทาบทามนายอภิสิทธิ์ รวมถึงนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรองหัวหน้าพรรค เข้ามากอบกู้พรรคอีกครั้ง จนได้รับเสียงโหวตท่วมท้นแบบไร้คู่แข่งให้นั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อีกรอบ shoujospain

โดยเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2568 นายอภิสิทธิ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวร่วมกับอดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ว่า “อาสามารับใช้ประชาชนในฐานะลูกพระแม่ธรณีอีกครั้งครับ”