กทม. เปิดตัว CERO Win นำร่องเขตบางรัก ส่งยาถึงบ้านผู้ป่วย–ลดความแออัด รพ.
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 นายวิพุธ ศรีวะอุไร ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดโครงการ “CERO Win” (Certified E-Delivery Rider for Online Healthcare) ณ อาคารบีบีดี ห้องประชุมชั้น 6 ถนนพระรามที่ 4 เขตบางรัก
โครงการนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง สภากรุงเทพมหานคร, สำนักงานเขตบางรัก, สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa), สภาวัฒนธรรมเขตบางรัก และภาคเอกชน เพื่อพัฒนาและยกระดับระบบบริการสาธารณสุขของกรุงเทพมหานคร ผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเชื่อมโยงระหว่าง โรงพยาบาล – พี่วินมอเตอร์ไซค์ – ประชาชนในชุมชน ให้สามารถรับยาจากโรงพยาบาลถึงบ้านได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
แก้ปัญหาความแออัดในโรงพยาบาลจากหน้างานจริง
นายวิพุธกล่าวว่า “หนึ่งในปัญหาที่ผมเห็นมาตลอดเวลาลงพื้นที่ คือผู้ป่วยจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงรอรับยาหลังพบแพทย์เสร็จ ซึ่งไม่เพียงสร้างความลำบาก แต่ยังเพิ่มความแออัดในโรงพยาบาล และกระทบต่อผู้ดูแลในครอบครัวด้วย”
จากปัญหานี้ จึงเกิดแนวคิดโครงการ “CERO Win” ที่จะช่วยให้โรงพยาบาลสามารถส่งยาให้ถึงบ้านผู้ป่วย โดยใช้เครือข่ายวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างสาธารณะในพื้นที่ ซึ่งผ่านการอบรมมาตรฐานความปลอดภัย การขนส่งยา และระบบยืนยันตัวตนแบบดิจิทัล เพื่อให้การบริการมีความถูกต้อง ปลอดภัย และตรวจสอบได้
เพิ่มรายได้ – เชื่อมระบบสุขภาพ
โครงการนี้ไม่เพียงช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาลเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มรายได้ให้กับพี่วินมอเตอร์ไซค์ในพื้นที่ โดยผู้ส่งยาจะได้รับรายได้ทันทีหลังจบงาน พร้อมสิทธิพิเศษจากโครงการ Blue Card และประกันอุบัติเหตุนอกจากนี้ โครงการยังเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบาย “Smart City” ของกรุงเทพมหานคร เพราะช่วยลดการเดินทางซ้ำซ้อน และใช้เทคโนโลยีติดตามการส่งยาแบบเรียลไทม์ เพื่อสร้างระบบสาธารณสุขที่ยั่งยืนและทันสมัยบางรักนำร่อง สู่ต้นแบบขยายผลทั่วกรุง
เขตบางรักได้รับเลือกให้เป็นพื้นที่นำร่องของโครงการ เนื่องจากเป็นพื้นที่ใจกลางเมืองที่มีโรงพยาบาลและสถานพยาบาลหลายแห่ง รองรับผู้ป่วยจำนวนมาก อีกทั้งในพื้นที่และบริเวณโดยรอบยังมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สะท้อนปัญหาสาธารณสุขเมืองได้อย่างชัดเจน และเหมาะสมในการทดสอบรูปแบบการให้บริการส่งยาถึงบ้าน
เพื่อเตรียมขยายผลไปยังเขตอื่น ๆ ทั่วกรุงเทพมหานครในระยะต่อไปนายวิพุธกล่าวทิ้งท้ายว่า “นี่คือก้าวเล็ก ๆ แต่สำคัญของการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยคน ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการรักษา เชื่อมระบบบริการสุขภาพเข้ากับชีวิตประจำวันของประชาชน และเพิ่มรายได้ให้กับแรงงานในระบบวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างอย่างยั่งยืน” shoujospain
