ซัดงบ ก.เกษตรฯ ลั่น “รักชนก”ลั่น ประชาชนไม่โง่ ด้าน “ไผ่ ลิกค์” แนะลดอคติ
“ไผ่ ลิกค์” สอน “รักชนก” ลดอคติ แล้วทำงานเพื่อประชาชน ย้ำ จัดงบฯ ตามปัญหาในพื้นที่ ย้ำ พรรคทำงานด้วยข้อมูล ไม่ใช่สร้างวาทกรรม หลัง “ไอซ์” ซัดงบประมาณกระทรวงเกษตรฯ กระจุกพื้นที่พรรคกล้าพรรค
เมื่อเวลา 17.52 น. วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร และเลขาธิการพรรคกล้าธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีที่ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน ตั้งข้อสังเกตว่าการจัดงบประมาณของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี 2569 เป็นงบแบบดักดาน ว่า การจัดงบฯ เป็นไปตามกระบวนการและมีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนของประชาชนในพื้นที่ภัยแล้ง ไม่ใช่เพื่อตอบแทนพรรคพวกหรือเฉพาะพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ตนขอไม่ตอบโต้ด้วยอารมณ์ เพราะเชื่อว่าการทำหน้าที่ผู้แทนฯ ควรตั้งอยู่บนเหตุผลและข้อเท็จจริงมากกว่าอคติส่วนบุคคล
นายไผ่ ระบุอีกว่า โครงการที่ผลักดันไม่ได้เป็นประโยชน์เฉพาะจังหวัดกำแพงเพชรเท่านั้น แต่ส่งผลเชื่อมโยงไปยังอีก 3 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิษณุโลก และพิจิตร โดยเฉพาะฝั่งตะวันตกของกำแพงเพชรที่ประสบภัยแล้งเรื้อรัง ขณะเดียวกัน งบฯ ที่ได้มีสัดส่วนสะท้อนความเร่งด่วนและความพร้อมของแต่ละพื้นที่ ไม่ใช่แค่ขนาดของพื้นที่เพาะปลูก พร้อมยกตัวอย่างเช่น
เขต 1 กำแพงเพชร พื้นที่ 500,000 ไร่ ได้งบ 497 ล้านบาท เพราะประสบภัยแล้งซ้ำซาก
เขต 4 กำแพงเพชร 850,000 ไร่ ได้งบเพียง 128 ล้านบาท เนื่องจากมีระบบชลประทานรองรับอยู่แล้ว
จังหวัดพะเยา 2 ล้านไร่ ได้งบ 1,280 ล้านบาท เพราะพื้นที่อยู่เขตสูง ต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานมาก
จังหวัดนครราชสีมา พื้นที่ใหญ่สุดในประเทศ (8.91 ล้านไร่) ได้งบ 1,354 ล้านบาท งบต่อไร่ต่ำกว่าหลายจังหวัด
โดยเฉพาะกรณีจังหวัดฉะเชิงเทรา เขต 2 ซึ่งเป็นเขตของ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคกล้าธรรม ได้รับงบฯ มากสุด 664 ล้านบาท จาก 1,227 ล้านบาท ทั้งจังหวัด เนื่องจากมีการวางแผนโครงการชลประทานและระบบน้ำอย่างรอบด้าน โดยเขตอื่นที่ไม่ได้ของบฯ เพราะไม่ได้เสนอของบฯ ไม่ใช่เพราะความลำเอียงของรัฐมนตรี ซัดงบ ก.เกษตรฯ ลั่น
“ผมเป็น สส. บ้านนอกที่ทำงานใกล้ชิดกับชาวบ้าน ไม่เคยใช้อำนาจเอางบฯ เข้าพื้นที่ตัวเอง แต่ทั้งหมดผ่านขั้นตอนปกติ ตั้งแต่หน่วยงานเสนอ พิจารณาโดยสำนักงบฯ คณะกรรมาธิการ และได้รับอนุมัติจากสภาผู้แทนฯ”
นายไผ่ ยังย้ำด้วยว่า สส. ไม่มีอำนาจโยกงบฯ ได้ตามใจ เพราะต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน ตั้งแต่ระดับหน่วยงานท้องถิ่น ไปจนถึงสำนักงบประมาณ และคณะกรรมาธิการฯ พร้อมทั้งย้ำว่าพรรคกล้าธรรมยินดีให้ตรวจสอบทุกโครงการที่ได้รับงบฯ และพร้อมต้อนรับฝ่ายค้านลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเอง
“ลดอคติ แล้วมาทำงานเพื่อประชาชนกันเถอะครับ… ถ้าอยากตรวจสอบเชิญมาที่กำแพงเพชร ผมยินดีต้อนรับด้วยความเคารพ”
ขณะเดียวกัน นายไผ่ ยังวิจารณ์การใช้โซเชียลมีเดียโจมตีด้วยข้อมูลไม่ครบถ้วนเพื่อหวังคะแนนนิยม ว่า เป็นการเมืองแบบเก่าในคราบใหม่ พร้อมเสนอให้ทุกฝ่ายหันมาให้ความสำคัญกับข้อเท็จจริงและผลลัพธ์เพื่อประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าโพสต์ของ น.ส.รักชนก ระบุถึงงบประมาณกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผ่านทางเฟซบุ๊ก ของตนเอง พร้อมหยิบยกมา 7 จังหวัด ที่เป็นจังหวัดเกษตรกรรม โดยมี 4 จังหวัด กำแพงเพชร พะเยา ฉะเชิงเทรา ราชบุรี ที่มี สส.จากพรรคกล้าธรรม ซึ่งเป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่าโควตากระทรวงเกษตรฯ เป็นของพรรคกล้าธรรม โดยมีการเปรียบเทียบกับจังหวัดที่มีพื้นที่เกษตรมากที่สุดในประเทศไทย
“กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อยู่ภายใต้การนำของเครือข่ายเดิมๆ มากี่ปีแล้ว ชีวิตเกษตรกรในประเทศดีขึ้นบ้างหรือยัง ราคาพืชผลทางการเกษตรดีขึ้นบ้างไหม เรามีเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้เกษตรกรเพิ่มขึ้นไหม หรือชีวิตเกษตรกรก็ยังเหมือนเดิม ประชาชนประเทศนี้ไม่ได้โง่ ทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่าเงินที่ใช้สร้างพรรค เงินที่ใช้ดึงดูด สส. เงินที่ใช้ดูแลเครือข่าย เขาหาจากไหน แต่ไอซ์เข้าใจ เข้าใจจริงๆ มีประชาชนบางกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากอะไรแบบนี้ แต่มันคือการปะผุไปวันๆ ท่านมองภาพรวมประเทศของเราวันนี้สิคะ ชีวิตของเกษตรไทยทำไมถึงได้ยากจนอยู่แบบนี้ทั้งๆ ที่งบประมาณแต่ละปีมันไม่ใช่น้อยๆ” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ลั่น
พร้อมทิ้งท้ายว่า ตนเองไม่เห็นความจำเป็นในการโต้เถียงกับ นายไผ่ ลิกค์ วิญญูชนที่มีสติปัญญาฟังเขาพูดแล้วก็ตีความเองได้ว่าคนๆ นี้เป็นอย่างไร แต่อยากชี้ให้ประชาชนทั้งประเทศได้มองเห็นถึงโครงสร้างอำนาจที่ค้ำจุนทำให้คนเช่นนี้ได้มาเป็น สส. นั่นคือสิ่งที่เราต้องช่วยกันทำลายทิ้ง พอกันทีกับการบีบให้จนแล้วแจก กดให้โง่แล้วปกครอง ปล่อยให้ป่วยแล้วรักษา ภาษีควรจะกระจายอย่างเป็นธรรมเพื่อไปแก้ปัญหา ให้ทุกๆ ชีวิตในประเทศอย่างตรงจุด ไม่ใช่ใช้อำนาจรวบไว้ที่เดียว แล้วค่อยแจกกลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้างบุญคุณ shoujospain