หยุดปฏิบัติหน้าที่นายก แพทองธาร ชินวัตร ต้องหยุดปฏิบัติ

หยุดปฏิบัติหน้าที่นายก

หยุดปฏิบัติหน้าที่นายก

หยุดปฏิบัติหน้าที่นายก

จับตานัดสำคัญ ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาคดีที่ 36 สว. ขอให้วินิจฉัย “แพทองธาร ชินวัตร” ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ปมคลิปเสียงสนทนากับ “สมเด็จฯ ฮุน เซน”

วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดประชุมปรึกษาคดีประจำสัปดาห์ เพื่อพิจารณาคำร้องต่างๆ ที่น่าสนใจ ในเวลา 9.30 น. โดยในวันนี้มีคดีที่น่าสนใจ คือ กรณีที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ยื่นคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ทั้ง 36 คน ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่มีเนื้อหาพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 รวมถึงมีพฤติกรรมบ่งบอกเป็นคนทรยศขายชาติ ทำให้กระทบอธิปไตยไทย กองทัพ ประชาชน
พร้อมขอให้ศาลรัฐธรรมนูญโปรดมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 71 ประกอบข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562 ข้อ 40 (8)

แพทองธาร

โดยทั้งนี้ 4 แนวทางคดีถอดถอนนายกฯ มีดังนี้ หยุดปฏิบัติหน้าที่นายก
1. ศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่หยิบคำร้องขึ้นมาพิจารณา
2. ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้อง สั่งนายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่
3. ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้อง ไม่สั่งนายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ (นายกรัฐมนตรีทำหน้าที่ต่อไปได้)
4. ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณา

ส่วนอีกหนึ่งที่ไม่ยอมน้อยหน้าคือ “ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส” รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ลูกหม้อจากรั้วแบงก์ชาติเอง
ว่ากันว่า “พิชัย ชุณหวชิร” ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่จะใช้ดุลยพินิจชี้ขาดว่าใครจะเข้าวิน ตัวเองก็วิงเวียนศีรษะไม่ใช่น้อย เพราะ “นี่ก็ดี นั่นก็ใช่” เลือกใคร ก็จะเสียดายอีกคน

“พิชัย”น่าจะต้องรับประทานยาแก้ปวดหัวหลายเม็ด ก่อนจะเลือกระหว่าง“วิทัย หรือ ดร.รุ่ง” แล้วเสนอชื่อเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติ ซึ่งตามคาดการณ์เดิม ชื่อผู้ว่าฯคนใหม่อาจได้ฤกษ์เคาะในที่ประชุมครม.ต้นเดือนกรกฎาคมนี้!
สำหรับ “วิทัย รัตนากร” อายุ 54 ปี ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นลูกชายของคนดังในแวดวงการเงินการคลังและกฎหมายอย่าง “ศิริลักษณ์ รัตนากร” อดีตเอ็มดีหญิงคนแรก ของตลาดหลักทรัพย์ฯ และ”โสภณ รัตนากร” อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม ด้วยสายเลือดที่ไม่ธรรมดา ทำให้เขามีความรู้ และทักษะในการบริหารอย่างเต็มเปี่ยม หยุดปฏิบัติหน้าที่นายก

ติดตามถ่ายทอดสดการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญกับไทยรัฐออนไลน์ หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกดีกรีการศึกษาก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน! เขาคว้าปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์จาก ม.ธรรมศาสตร์ และต่อปริญญาโทอีก 3 ใบ ได้แก่ เศรษฐศาสตร์การเมืองและกฎหมายธุรกิจจากรั้วจุฬาฯ และ ปิดท้ายด้วยการเงินจาก Drexel University ประเทศสหรัฐอเมริกาที่สำคัญ นอกจากตำแหน่ง ผอ. ธนาคารออมสินแล้ว “วิทัย” ยังนั่งเก้าอี้ตำแหน่งสำคัญอีกหลายแห่ง ทั้งในแวดวงสมาคมกองทุน, สถาบันการเงินของรัฐ, บริษัทประกัน และบริษัทโฮลดิ้งต่างๆ ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ในการคุมนโยบายการเงินของประเทศ

ไม่เพียงแต่มีดีที่โปรไฟล์ แต่ผลงานก็โดดเด่นไม่แพ้กัน “วิทัย” นับว่าเป็นหัวเรือใหญ่ที่พลิกโฉมธนาคารออมสินให้กลายเป็น “ธนาคารเพื่อสังคม” หรือ Social Bank และ ยังมีความคิดเห็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทย ที่กำลังซบเซา โดยเขามองว่า ต้องอาศัยทั้งมาตรการการเงินและการคลัง ควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างเป็นรูปธรรม และยั่งยืน

ฟาก “ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส” อายุ 57 ปี สาวแกร่งจากแบงก์ชาติ ก็จัดว่าโปรไฟล์ระดับอินเตอร์!เธอจบปริญญาตรี ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และปริญญาเอก ด้านเศรษฐศาสตร์จาก MIT (Massachusetts Institute of Technology) ซึ่งเป็นสถาบันชั้นนำด้านเศรษฐศาสตร์ของโลกทั้งคู่ว่ากันว่า เบื้องหลังความสำเร็จของ “ดร.รุ่ง” มีรากฐานจากครอบครัวที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน!“ดร.รุ่ง” เป็นบุตรสาวของ “ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.โกวิทย์ โปษยานนท์” จึงไม่น่าแปลกใจที่เธอจะซึมซับความรู้ความสามารถและมีสายเลือดนักเศรษฐศาสตร์มาเต็มๆ

shoujospain