
จาตุรนต์ จี้ กกต. เร่งเครื่องออกเสียงประชามติวันเดียวกับวันเลือกตั้ง
“จาตุรนต์” เสนอเดินเครื่อง “จัดขบวนรณรงค์ประชามติเต็มที่” จี้ กกต. เร่งวางหลักเกณฑ์ หนุนพรรคการเมือง-ภาคประชาชนผนึกกำลัง วันที่ 15 ธ.ค. 2568 นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตสส. พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความจำเป็นในการเร่งรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิลงประชามติ โดยย้ำว่าเมื่อกระบวนการมุ่งไปสู่การจัดประชามติควบคู่วันเลือกตั้ง ประเด็นสำคัญจะอยู่ที่การสื่อสารและการรณรงค์ของทุกภาคส่วน พร้อมเสนอให้ “ต้องเดินเครื่องจัดขบวนรณรงค์อย่างเต็มที่” เพื่อไม่ให้ประชามติถูกกลบด้วยกระแสการหาเสียงเลือกตั้ง ทั้งนี้ ได้เสนอแนวทางให้พรรค พท. กำหนดนโยบายร่วมรณรงค์แล้ว และตนพร้อมร่วมรณรงค์กับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่
นายจาตุรนต์ ระบุว่า ประชามติครั้งนี้มีคำถามคือ “ประชาชนจะเห็นชอบให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่” และชี้ว่าเป็นจุดชี้เป็นชี้ตาย เพราะหากประชาชนเห็นชอบด้วยเสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิ จะทำให้รัฐสภาสามารถริเริ่มแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้โดยไม่มีข้อขัดข้องตามรัฐธรรมนูญอีกต่อไป อีกทั้งเป็นต้นทุนทางสังคมและทางการเมือง เป็นแรงเสริมแรงส่งและแรงผลักดันให้ผู้เกี่ยวข้องเดินหน้าต่อได้ โดยมีแรงหนุนจากประชาชน
“ในทางกลับกัน หากประชามติไม่ผ่านคือเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นชอบให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก็จะกลายเป็นข้อสรุปว่าประชาชนไม่ต้องการให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกต่อไป และอาจต้องอยู่กับรัฐธรรมนูญปี 2560 ไปอีกนานเท่านาน เพราะเราไม่รู้เลยว่าการจะให้มีการลงประชามติกันใหม่อีกครั้งจะเกิดได้เมื่อไหร่” นายจาตุรนต์ กล่าว

นายจาตุรนต์ ยังกล่าวถึงขั้นตอนหลังรัฐสภามีมติและเกิดการยุบสภา ว่าผู้ทำหน้าที่คือรองประธานรัฐสภาซึ่งเป็นประธานวุฒิสภา ทำหนังสือส่งไปยังคณะรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีต้องมีมติตามที่รัฐสภาร้องขอ ก่อนส่งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อจัดให้มีการออกเสียงประชามติในวันเดียวกันกับวันเลือกตั้ง โดยเห็นว่าข้อดีคือประหยัดงบประมาณและทำให้มีผู้มาใช้สิทธิจำนวนมาก แต่ข้อเสียคือประชาชนอาจไปสนใจนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองมากกว่า จึงต้องเร่งทำให้ประชามติเป็นวาระร่วมของสังคม
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้ กกต. จึงต้องเร่งดำเนินการทันที เมื่อกฎหมายเปิดให้รณรงค์ได้อย่างเสรี อันดับแรก กกต. จะต้องรีบวางหลักเกณฑ์และวิธีการในการชี้แจงรณรงค์ที่ฝ่ายต่าง ๆ จะดำเนินการ เพื่อให้การรณรงค์เดินหน้าได้อย่างชัดเจนและเป็นธรรม
ขณะที่กฎหมายประชามติฉบับปัจจุบันไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ให้ทั้งประชาชน พรรคการเมือง กลุ่มองค์กรเอกชน กลุ่มต่าง ๆ ทุกภาคส่วนในสังคม สามารถชี้แจงรณรงค์ได้อย่างเสรี เพื่อให้การรณรงค์ทำได้อย่างเปิดกว้างและเป็นธรรม และเสนอให้พรรคการเมืองกำหนดนโยบายรณรงค์ประชามติควบคู่การหาเสียงเลือกตั้ง
ท้ายที่สุด พรรคการเมืองที่ต้องการผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งหมายถึงการเดินหน้าสู่การแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 และกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง และขยายความร่วมมือไปยังภาคเอกชน ภาคประชาชน และองค์กรต่าง ๆ เพื่อให้ประชามติครั้งนี้ผ่านความเห็นชอบของประชาชน shoujospain