สุดารัตน์ ชี้ ทุนดำ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 คุณหญิงสุดารัตน์

สุดารัตน์ ชี้ ทุนดำ

สุดารัตน์ ชี้ ทุนดำ

สุดารัตน์ ชี้ ทุนดำ-สแกมเมอร์รุกคืบยึดการเมืองไทย จี้รัฐบาลเร่งปราบปราม

“สุดารัตน์” ชี้ ภัยทุนดำ-สแกมเมอร์รุกคืบยึดการเมืองไทย หว่านแจก-ซื้อเสียง ย้ำคนไทยต้องไม่เลือกนักการเมืองชั่ว จี้รัฐบาลเร่งปราบขบวนการฟอกเงิน หวั่นนำไปสู่ความพังพินาศทั้งระบบของชาติ

 

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีสถานการณ์ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการแทรกซึมของทุนดำและขบวนการสแกมเมอร์ข้ามชาติ ปล้นเงินจากประชาชนไทยและทั่วโลก ผ่านการหลอกลวงออนไลน์และธุรกรรมผิดกฎหมาย โดยมีมูลค่าความเสียหายปีละหลายแสนล้านบาท และกำลังพยายามฟอกเงินผ่านการเมืองไทย เพื่อยึดประเทศอย่างเป็นระบบและก่ออาชญากรรมเหล่านี้

คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุในตอนหนึ่งว่า ด้วยเงินเพียง 20,000 ล้านบาท จากกลุ่มแก๊งสแกมเมอร์ซึ่งเป็นทุนดำที่ปล้นคนไทยไปหลายแสนล้านบาท ร่วมกับนักการเมืองชั่วบางกลุ่ม ขบวนการเหล่านี้สามารถแทรกซึมเข้ามามีอิทธิพลทางการเมืองได้อย่างน่ากลัว ตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา กัมพูชากลายเป็นศูนย์กลางของสแกมเมอร์ที่ใช้หลอกและปล้นเงินจากผู้คนทั่วโลก รวมถึงมีการหลอกแรงงานไทยและต่างชาติเข้าไปทำงานในเครือข่าย มีการซ้อมทรมานและเสียชีวิต เข้าข่ายการค้ามนุษย์ จนทั่วโลกเรียกกันว่าสแกมโบเดีย

เงินจำนวนมหาศาลที่ได้จากการปล้นนี้จำเป็นต้องผ่านกระบวนการฟอกขาว หรือการฟอกเงิน (Money Laundering) ซึ่งประเทศไทยกลับกลายเป็นเป้าหมายหลักของอาชญากรข้ามชาติ เนื่องจากระบบการตรวจสอบและกฎหมายที่อ่อนแอ ทำให้ไทยกลายเป็นสวรรค์ของอาชญากร และเป็นศูนย์กลางการฟอกเงินของขบวนการสแกมเมอร์ทั่วภูมิภาค เมื่ออาชญากรเหล่านี้เข้ามาทำธุรกิจฟอกเงินในประเทศไทย ย่อมต้องจ่ายสินบนให้กับผู้มีอำนาจบางราย โดยเฉพาะนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อแลกกับการคุ้มครองหรือการหลีกเลี่ยงการบังคับใช้กฎหมาย จึงก่อให้เกิดขบวนการ “ทุนดำ” ที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีอิทธิพลครอบงำระบบการเมือง

หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เผยต่อไปว่า กลุ่มทุนดำเหล่านี้ไม่ได้เพียงฟอกเงินผ่านช่องทางเดิม เช่น การซื้ออสังหาริมทรัพย์ หมู่บ้านจัดสรร หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย สกุลเงินดิจิทัล หรือทองคำเท่านั้น ซึ่งล้วนส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งและกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยอย่างรุนแรง แต่ยังพัฒนาเป็นรูปแบบใหม่ที่น่ากลัวกว่าเดิม คือการฟอกเงินผ่านกระบวนการทางการเมืองในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง อาจมีการใช้เงินทุนดำเข้ามาซื้อเสียงและควบคุมพรรคการเมือง เพื่อยึดประเทศไทยอย่างเบ็ดเสร็จ โดยมีรายงานว่าขบวนการดังกล่าวเตรียมใช้งบประมาณไม่เกิน 20,000 ล้านบาท เพื่อจ่ายให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางรายหัวละ 50–70 ล้านบาท เพื่อซื้อตัวและซื้อเสียงในการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ หายนะของประเทศจะมาถึงแน่ หากคนไทยไม่พร้อมใจกันลุกขึ้นสู้ ขอเรียกร้องให้ประชาชนไม่เลือกนักการเมืองที่ซื้อเสียงอย่างเด็ดขาด เพราะเงินที่นำมาแจกนั้นคือเงินที่ปล้นจากคนไทยเอง ประชาชนสามารถรับเงินได้เพราะเป็นเงินของพวกเราที่ถูกปล้นไป แต่ต้องไม่กากบาทให้กับนักการเมืองชั่วที่เอาเงินสกปรกมาซื้ออำนาจ เพื่อกลับมาโกงชาติและประชาชนต่อไป

“ขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีให้เร่งดำเนินการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ที่ซุกซ่อนอยู่ในประเทศไทย รวมถึงนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐที่ให้การคุ้มครองขบวนการเหล่านี้ โดยต้องสั่งอายัดทรัพย์ ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และดำเนินคดีอาญากับทุกคนที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและนานาชาติเพื่อสกัดเส้นทางทุนดำไม่ให้กลับมาทำลายประเทศอีก หากประเทศไทยไม่รีบดำเนินการอย่างจริงจัง ขบวนการทุนดำจะกลายเป็นผู้ครอบงำการเมือง เศรษฐกิจ และระบบราชการไทยอย่างเบ็ดเสร็จ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในหลายประเทศในละตินอเมริกา ซึ่งอาจนำไปสู่ความพังพินาศทั้งระบบของชาติ” shoujospain